เปลี่ยนผ่านสู่รัฐบาลดิจิทัล : อนาคตการบริการภาครัฐของไทย
คำสำคัญ:
รัฐบาลดิจิทัล, การบริการ, ภาครัฐบทคัดย่อ
บทความวิชาการนี้มุ่งสำรวจการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของภาครัฐไทยสู่ยุคดิจิทัล โดยเน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อยกระดับการให้บริการประชาชน การเปลี่ยนผ่านนี้ได้สร้างโอกาสใหม่ในการพัฒนาบริการสาธารณะอย่างมหาศาล ผ่านการใช้ ปัญญาประดิษฐ์ บล็อกเชน และการประมวลผลแบบคลาวด์ ซึ่งมีศักยภาพในการเพิ่มประสิทธิภาพ ความโปร่งใส และความสะดวกในการเข้าถึงบริการสำหรับประชาชนได้อย่างทั่วถึง การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในบริบทของไทยยังคงเผชิญกับ ความท้าทาย สำคัญหลายประการ ได้แก่ โครงสร้างระบบราชการที่ซับซ้อน ความล่าช้าในการปรับเปลี่ยนกฎหมาย ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงเทคโนโลยีของประชาชน และการขาดแคลนบุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัล บทความนี้วิเคราะห์ทั้งโอกาสและความท้าทายที่ภาครัฐต้องเผชิญ พร้อมนำเสนอแนวทางที่เป็นรูปธรรม เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่รัฐบาลดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาศัยกรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จจากหน่วยงานภาครัฐในประเทศ และบทเรียนจากนโยบายดิจิทัลของต่างประเทศ การศึกษาเหล่านี้จะช่วยฉายภาพแนวทางการพัฒนาการบริการภาครัฐผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลในอนาคต เพื่อให้ภาครัฐสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง และสร้างสรรค์คุณค่าที่ยั่งยืนให้กับสังคมไทย
เอกสารอ้างอิง
กนกพร จีนมหันต์. (2556). แนวทางการบริหารงานโดยใช้หลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 42. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร, 10(50), 87-94.
ขยัน วิพรหมชัย. (2550). ผลกระทบความสัมพันธ์เชิงอุปถัมภ์ระหว่างสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกับผู้บริหารท้องถิ่น (การค้นคว้าอิสระปริญญารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์). ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ฉัตรชัย เอมราช. (2567). หลักความเสมอภาคกับการคุ้มครองสิทธิการใช้ชีวิตร่วมกันของบุคคลเพศทางเลือกในบริบทกฎหมายไทย. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ไททัศน์ มาลา. (2561). การจัดการปกครองสาธารณะแนวใหม่ (New Public Governance: NPG): แนวคิดและการประยุกต์ใช้ในการจัดการปกครองท้องถิ่น. วารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์, 8(1), 179-194.
ธนภูมิ ชาติดี และถิรวุฒิ แสงมณีเดช. (2567). การจัดการบริการสาธารณะแนวใหม่ด้านการส่งเสริมสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุของภาครัฐในระดับท้องถิ่นด้วยการวิเคราะห์อภิมาน. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 11(4), 142-152.
เพ็ญศิริ สมารักษ์ และคณะ. (2565). ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวโดยชุมชน ตำบลบางสระเก้า อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี. วารสารวิจัยรำไพพรรณี, 16(1), 46-57.
ภัครธรณ์ เอี่ยมอำภา. (2567). ความร่วมมือภาครัฐและเอกชนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชน. วารสาร มจร เพชรบุรีปริทรรศน์, 7(1), 33-47.
มนัส โนนุช. (2556). รูปแบบการพัฒนาพฤติกรรมการบริหารตามหลักธรรมภิบาลของผู้อำนวยการสำนัก สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย, 3(1), 112-130.
วัชรินทร์ อินทพรหม และคณะ. (2567). การจัดการเครือข่ายนโยบายสาธารณะ. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์, 18(3), 309-322.
วีรศักดิ์ หะติง และคณะ. (2567). ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการบริการสาธารณะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในจังหวัดนครพนม. วารสารวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร, 4(3), 1070-1082.
วุฒิชัย วงค์ปัญโญ และคณะ. (2567). กลยุทธ์การบริหารจัดการภาครัฐอัจฉริยะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดนครราชสีมา. วารสารวิชาการเครือข่ายบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือ, 14(2), 88-106.
ศิริพร กองแก้ว และวิษณุ สุมิตสวรรค์. (2567). ความพึงพอใจของประชาชนต่อการให้บริการสาธารณะของ องค์การบริหารส่วนตำบลศรีบุญเรือง อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น. วารสาร มจร พุทธปัญญาปริทรรศน์, 9(2), 308-322.
สัญญา เคนาภูมิ. (2561). กระบวนทัศน์การจัดการบริการสาธารณะแนวใหม่. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, 9(1), 181-197.
อิสระพันธ์ สมัครคดี และณรงค์ เกียรติคุณวงศ์. (2567). ความชอบด้วยกฎหมายของการทำสัญญาทางปกครองผ่านช่องทางดิจิทัลในกฎหมายปกครอง. วารสารการเมือง การบริหาร และกฎหมาย, 16(2), 39-57.
Klijn, E. H., Steijn, B., & Edelenbos, J. (2010). The impact of network management on outcomes in governance networks. Public administration, 88(4), 1063-1082.



