https://so18.tci-thaijo.org/index.php/Thaiso/issue/feed
วารสารสังคมศาสตร์ไทย
2025-08-25T16:23:51+07:00
นางสาวรัศมี ใคร่ครวญ (Miss. Rasmi Kraikruan)
thaicocialscience@gmail.com
Open Journal Systems
<p><strong>วารสารสังคมศาสตร์ไทยเป็นวารสารวิชาการ วารสารมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการศึกษา ค้นคว้า และเพื่อเผยแพร่บทความวิจัย บทความวิชาการ ฯที่เป็นความคิดริเริ่มใหม่ วารสารเป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะที่แตกต่าง หลากหลาย ไม่จำกัดแนวคิด อุดมการณ์ มุมมองฯ วารสารเน้นประเด็นที่ถกเถียงในสังคมทั้งปัญหาในอดีต ปัจจุบัน อนาคต ในประเทศไทยอันเป็นแนวทางนำไปสู่การแก้ไขปัญหาร่วมกันในสังคมอย่างสันติและยั่งยืน วารสารเป็นสื่อกลางในการนำเสนอต่อสังคมให้แก่ประชาชนทั่วไป นักวิจัย นักวิชาการ อาจารย์ นิสิตนักศึกษา และผู้สนใจทั่วไป</strong> </p>
https://so18.tci-thaijo.org/index.php/Thaiso/article/view/1113
ตึกถล่ม ความเชื่อมั่นพัง: มุมมองประชาชนต่อความล้มเหลวของระบบควบคุมมาตรฐานในโครงการของรัฐ
2025-05-04T08:07:04+07:00
ธนโรจน์ หล่อธนะไพศาล
tallmanandtallman@gmail.com
<p>บทความนี้มุ่งศึกษาปรากฏการณ์ทางสังคมและกฎหมายจากกรณีการถล่มของอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชนในแง่ของความเชื่อมั่นต่อระบบราชการ โดยเฉพาะในฐานะที่รัฐควรเป็นต้นแบบของมาตรฐานด้านความปลอดภัย วิศวกรรม และความรับผิดชอบต่อสาธารณะ เหตุการณ์ดังกล่าวจึงมิใช่เพียงอุบัติเหตุเฉพาะกรณี แต่เป็นภาพสะท้อนของความล้มเหลวเชิงโครงสร้างของกลไกควบคุมภาครัฐในระบบราชการไทย ผลการวิเคราะห์ประเด็นสำคัญ ได้แก่ ความคาดหวังของประชาชนที่เห็นว่ารัฐควรเป็นผู้กำหนดมาตรฐานที่สูงกว่าเอกชน แต่กลับล้มเหลวในการปฏิบัติตนตามหลักการนั้น ความบกพร่องของระบบตรวจสอบโครงการที่ไม่มีการแยกบทบาทระหว่างผู้ควบคุมกับผู้ถูกควบคุม อีกทั้งขาดกลไกอิสระในการประเมิน มีการแสดงออกของประชาชนผ่านสื่อสังคมที่สะท้อนความไม่ไว้วางใจต่อรัฐอย่างกว้างขวาง เหตุการณ์สร้างผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของรัฐและคำถามเรื่องความรับผิดชอบที่ยังไร้คำตอบ โดยมีข้อเสนอเชิงนโยบาย เช่น การจัดตั้งหน่วยตรวจสอบอิสระ การเพิ่มการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน และการใช้เทคโนโลยีเพื่อเปิดเผยข้อมูลแบบเรียลไทม์ หากรัฐยังคงดำรงโครงสร้างการกำกับควบคุมแบบรวมศูนย์และไม่เปิดรับการตรวจสอบจากภายนอก ความเสื่อมศรัทธาที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างของประชาธิปไตยในระยะยาว การปฏิรูปจึงต้องมีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบที่โปร่งใส มีความรับผิด และยึดโยงกับประชาชนอย่างแท้จริง</p>
2025-08-25T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสังคมศาสตร์ไทย
https://so18.tci-thaijo.org/index.php/Thaiso/article/view/1175
ผลกระทบของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่อเศรษฐกิจไทย: ความสูญเสียทางการเงินและความเสียหายทางจิตใจ
2025-05-22T09:07:52+07:00
terachai dangpisan
terachaidangpisan@gmail.com
<p>ปัญหาการหลอกลวงจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศไทยกลายเป็นหนึ่งในปัญหาสังคมที่มีผลกระทบอย่างกว้างขวางทั้งในด้านการเงินและจิตใจของประชาชน แก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้ใช้กลยุทธ์หลอกลวงที่หลากหลาย การอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่จากธนาคารหรือหน่วยงานรัฐบาล เพื่อให้เหยื่อหลงเชื่อและเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวหรือโอนเงินไปยังบัญชีของผู้กระทำการ ซึ่งมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นในระบบการเงินของประเทศ ผลกระทบทางการเงินจากการหลอกลวงเหล่านี้ค่อนข้างรุนแรงโดยเหยื่อสูญเสียเงินจำนวนมาก ซึ่งบางครั้งทำให้ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการฟื้นฟูฐานะทางการเงิน การสูญเสียนี้ไม่เพียงแต่กระทบต่อบุคคล แต่ยังส่งผลต่อการหมุนเวียนเงินในระบบเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้ยังมีผลกระทบต่อธุรกิจและความเชื่อมั่นในระบบการเงิน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่ตกเป็นเหยื่อที่มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยทางการเงิน นอกจากผลกระทบทางการเงินแล้ว ผลกระทบทางจิตใจจากการถูกหลอกลวงนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถมองข้ามได้ เหยื่อของการหลอกลวงมักประสบกับความเครียด วิตกกังวล และความรู้สึกเสียความเชื่อมั่นในคนรอบข้าง รวมถึงความรู้สึกผิดหวังจากการที่เชื่อใจบุคคลหรือองค์กรที่ไม่จริง การสูญเสียความมั่นใจในผู้คนและระบบต่างๆ ที่เคยเชื่อถือทำให้เกิดความระแวงและความไม่มั่นคงในจิตใจ การแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงต้องอาศัยการร่วมมือจากภาครัฐและภาคเอกชนในการเสริมสร้างความรู้ให้กับประชาชนเกี่ยวกับวิธีการป้องกันการตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยเฉพาะการจัดอบรมหรือแคมเปญประชาสัมพันธ์ รวมทั้งการปรับปรุงกฎหมายและเพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อปราบปรามการหลอกลวงทางโทรศัพท์</p>
2025-08-25T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสังคมศาสตร์ไทย
https://so18.tci-thaijo.org/index.php/Thaiso/article/view/1291
การปรับปรุงกฎหมายและบทบาทของหน่วยงานรัฐในการต่อสู้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในไทย
2025-06-23T14:11:03+07:00
kuljira netkamonkul
kuljiranetkamonkul@gmail.com
<p>ปัญหาการหลอกลวงผ่านแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศไทยเป็นปัญหาที่ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยมีการหลอกลวงประชาชนผ่านโทรศัพท์โดยอ้างตัวเป็นหน่วยงานต่างๆ ทำให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อ สูญเสียทรัพย์สิน และทำลายความเชื่อมั่นในระบบการเงินและความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างรุนแรง ดังนั้นการต่อสู้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์จึงต้องการการปรับปรุงทั้งในด้านกฎหมายและการทำงานร่วมกันของหน่วยงานภาครัฐ ในส่วนของบทบาทของหน่วยงานภาครัฐในควบคุมและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ต้องประสานการทำงานร่วมกันของหน่วยงานต่างๆ รวมถึงการสร้างระบบการประสานงานร่วมกันในการติดตามและปราบปรามการกระทำผิด การเสนอแนวทางการปรับปรุงกฎหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการกับปัญหานี้ เช่น การเพิ่มโทษสำหรับผู้กระทำผิด และการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ควรมีการพัฒนาระบบเทคโนโลยีเพื่อช่วยในการตรวจจับการกระทำผิด เช่น การใช้ระบบการกรองการโทรเข้า การตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ปลอม และการพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงิน รวมถึงการส่งเสริมความรู้และความตระหนักรู้แก่ประชาชนผ่านการจัดแคมเปญ การอบรม และการเผยแพร่ข้อมูลการป้องกันการหลอกลวง เพื่อให้ประชาชนสามารถหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การต่อสู้กับปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต้องการความร่วมมือจากหลายหน่วยงานภาครัฐทั้งในระดับประเทศและระหว่างประเทศ เพื่อให้การติดตามและปราบปรามการหลอกลวงเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ การปรับปรุงกฎหมายและการใช้เทคโนโลยีในการป้องกันการกระทำผิดจะเป็นกุญแจสำคัญในการลดปัญหานี้และสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนได้อย่างยั่งยืน</p>
2025-08-25T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสังคมศาสตร์ไทย
https://so18.tci-thaijo.org/index.php/Thaiso/article/view/1388
การปรับปรุงระบบการดูแลพระสงฆ์ในสังคมไทย:การควบคุมและการตรวจสอบกิจกรรมของพระสงฆ์บางประการ
2025-07-17T13:31:27+07:00
phasinee songraksa
phasineesongraksa@gmail.com
<p><strong>บทคัดย่อ</strong></p> <p>การดูแลพระสงฆ์ในสังคมไทยเป็นเรื่องที่สำคัญในแง่ของการรักษาศีลธรรมและจริยธรรมในสังคมพุทธศาสนา โดยพระสงฆ์มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่คำสอนและเป็นแบบอย่างที่ดีในการดำเนินชีวิตตามหลักธรรมของศาสนา แต่ในปัจจุบันพบว่า มีปัญหาการขาดการควบคุมและการตรวจสอบกิจกรรมของพระสงฆ์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทำให้เกิดเหตุการณ์ที่พระสงฆ์บางรูปกระทำผิดในเรื่องศีลธรรม ปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนต่อศาสนาและพระสงฆ์ ในสถานการณ์ปัจจุบันความขาดแคลนในการควบคุมและตรวจสอบทำให้เกิดความเสื่อมสภาพในสถาบันพระสงฆ์ ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของศาสนาและการทำหน้าที่ของพระสงฆ์ในสังคม ดังนั้นการปรับปรุงระบบการควบคุมและการตรวจสอบกิจกรรมของพระสงฆ์จึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาและการรักษามาตรฐานทางศีลธรรม การปรับปรุงระบบการดูแลพระสงฆ์นั้นจำเป็นต้องมีกระบวนการตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพและโปร่งใส หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีบทบาทในการควบคุมและตรวจสอบกิจกรรมของพระสงฆ์ในทุกด้าน โดยเฉพาะในด้านการปฏิบัติตามหลักศีลธรรม รวมถึงการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างพระสงฆ์และชุมชนในการตรวจสอบพฤติกรรมต่างๆ การสร้างเครือข่ายชุมชนในการตรวจสอบกิจกรรมของพระสงฆ์ จะช่วยเสริมสร้างความโปร่งใสในการปฏิบัติตามหลักศีลธรรม การใช้เทคโนโลยีในการติดตามและตรวจสอบกิจกรรมของพระสงฆ์จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลและควบคุม นอกจากนี้ยังควรส่งเสริมการฝึกอบรมพระสงฆ์ให้มีความรู้เกี่ยวกับหลักธรรมคำสอนในสังคมปัจจุบัน เพื่อให้สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีได้ ในการป้องกันการกระทำผิดและการทุจริตควรมีกระบวนการทางกฎหมายที่ชัดเจนและมีการลงโทษที่เหมาะสม รวมถึงการตั้งคณะกรรมการสอบสวนที่มีอิสระในการทำงาน การส่งเสริมความโปร่งใสในองค์กรศาสนาเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้สังคมสามารถมั่นใจในความถูกต้องและยุติธรรมของการปฏิบัติตามศาสนา</p>
2025-08-25T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสังคมศาสตร์ไทย