วารสารครุศาสตร์และการพัฒนามนุษย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ https://so18.tci-thaijo.org/index.php/edusskru <p>วารสารครุศาสตร์และการพัฒนามนุษย์ เป็นวารสารที่ตีพิมพ์เผยแพร่บทความวิจัยและบทความวิชาการที่ครอบคลุมสาขาวิชาทางการศึกษา ศึกษาศาสตร์ จิตวิทยา สหวิทยาการด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ โดยเป็นบทความวิชาการและบทความวิจัย มีกำหนดการตีพิมพ์ราย 4 เดือน (จัดพิมพ์ 3 ฉบับต่อปี)</p> คณะครุศาสตร์และการพัฒนามนุษย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ th-TH วารสารครุศาสตร์และการพัฒนามนุษย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ 3057-1898 <p>บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของคณะครุศาสตร์และการพัฒนามนุษย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ </p> <p>ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเอง</p> ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกสถานประกอบการในการฝึกประสบการณ์วิชาชีพของนิสิตวิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ https://so18.tci-thaijo.org/index.php/edusskru/article/view/994 <p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับการตัดสินใจเลือกสถานประกอบการในการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ และประโยชน์ที่ได้รับจากการฝึกประสบการณ์วิชาชีพของนิสิตวิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม 2) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของการตัดสินใจเลือกสถานประกอบการในการฝึกประสบการณ์วิชาชีพของนิสิตวิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม และประโยชน์ที่ได้รับจากการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ จำแนกตามเพศ อายุ สาขา เกรดเฉลี่ยสะสม และสถานประกอบการที่ฝึกประสบการณ์วิชาชีพ 3) เพื่อศึกษาการตัดสินใจเลือกสถานประกอบการในการฝึกประสบการณ์วิชาชีพที่ส่งผลต่อประโยชน์ที่เกิดจากการฝึกประสบการณ์วิชาชีพของนิสิตวิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ มีเครื่องมือในการวิจัย คือ แบบสอบถามปลายปิด โดยมีกลุ่มตัวอย่างเป็นนิสิตที่ฝึกประสบการณ์วิชาชีพ จำนวน 240 คน ที่มาจากการคำนวณขนาดตัวอย่าง โดยใช้สูตร ทาโร่ ยามาเน่ ที่ระดับความคลาดเคลื่อน 0.05 ที่มาจากการสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย แล้วนำข้อมูลที่รวบรวมได้จากแบบสอบถามมาวิเคราะห์โดยใช้สถิติ ประกอบด้วย ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบโดยการทดสอบค่าที การทดสอบความแปรปรวนทางเดียว และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ</p> <p> ผลการวิจัยพบว่า 1) ผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็นต่อระดับการตัดสินใจเลือกสถานประกอบการในการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงมากที่สุด คือ ด้านชื่อเสียงองค์กร ประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยสูงมากที่สุด คือ นิสิตจะเลือกฝึกประสบการณ์วิชาชีพสถานประกอบการที่มีผลประกอบการที่ดีสามารถสร้างกำไรได้ในระดับสูง นอกจากนี้ ความคิดเห็นต่อประโยชน์ที่ได้รับจากการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงมากที่สุด คือ ด้านประโยชน์ต่อนิสิต ประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยสูงมากที่สุด คือ เกิดการพัฒนาตนเอง มั่นใจในตนเองมากขึ้น 2) นิสิตที่มี เพศ แตกต่างกันมีความคิดเห็นในการตัดสินใจเลือกสถานประกอบการในการฝึกประสบการณ์วิชาชีพโดยรวม แตกต่างกัน ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 ส่วนนิสิตที่มี อายุ สาขาวิชาเอก เกรดเฉลี่ยสะสม และสถานประกอบการที่ฝึกประสบการณ์วิชาชีพ แตกต่างกัน มีความคิดเห็นของการตัดสินใจเลือกสถานประกอบการในการฝึกประสบการณ์วิชาชีพโดยรวม ไม่แตกต่างกัน ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 นิสิตที่มี เพศ แตกต่างกันมีความคิดเห็นต่อประโยชน์ที่ได้รับจากการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ แตกต่างกัน ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 ส่วนนิสิตที่มี อายุ สาขาวิชาเอก เกรดเฉลี่ยสะสม และสถานประกอบการที่ฝึกประสบการณ์วิชาชีพ แตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อประโยชน์ที่ได้รับจากการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ไม่แตกต่างกัน ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 และ 3) การตัดสินใจเลือกสถานประกอบการในการฝึกประสบการณ์วิชาชีพที่สามารถพยากรณ์ประโยชน์ที่ได้รับจากการฝึกประสบการณ์วิชาชีพได้ ได้แก่ (1) นิสิตจะเลือกฝึกประสบการณ์วิชาชีพสถานประกอบการที่มีผลประกอบการที่ดีสามารถสร้างกำไรได้ในระดับสูง และ (2) นิสิตจะเลือกฝึกประสบการณ์วิชาชีพสถานประกอบการที่อยู่ใกล้บ้านหรือที่พัก ได้ร้อยละ 34.30</p> ณัฏฐนันท์ สุวงศ์ษา อาอีซะห์ สะนิง ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะครุศาสตร์และการพัฒนามนุษย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-08-26 2025-08-26 5 2 37 57 ศึกษาการบริหารทรัพยากรบุคคลที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตการทำงานของบุคลากร วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ https://so18.tci-thaijo.org/index.php/edusskru/article/view/1208 <p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษากระบวนการการบริหารทรัพยากรบุคคลของบุคลากร วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ 2) ศึกษาระดับคุณภาพชีวิตการทำงานของบุคลากร วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ 3) ศึกษาปัจจัยการบริหารทรัพยากรบุคคลที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตการทำงานของบุคลากร วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการวิจัย โดยเก็บรวบรวมจากบุคลากรและอาจารย์ ในวิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จำนวน 69 คน และวิเคราะห์ข้อมูล ประกอบด้วย ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ</p> <p> ผลการวิจัยพบว่า การบริหารทรัพยากรบุคคลโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยเฉพาะด้านการสรรหา การคัดเลือก และการฝึกอบรมและพัฒนา ส่วนคุณภาพชีวิตการทำงานโดยรวมอยู่ในระดับมาก โดยด้านการพัฒนาความสามารถของบุคคลและด้านความสัมพันธ์ด้านสังคมมีค่าเฉลี่ยสูงสุด สำหรับการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณพบว่า การคัดเลือก การประเมินผลการปฏิบัติงาน และค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์ มีผลต่อคุณภาพชีวิตการทำงานอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ .01 ตามลำดับ ขณะที่การสรรหาและการฝึกอบรมและพัฒนาไม่มีผลอย่างมีนัยสำคัญ</p> วิลาวัลย์ ม่วงพลับ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะครุศาสตร์และการพัฒนามนุษย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-08-26 2025-08-26 5 2 58 73 แหล่งนันทนาการเฉพาะฤดูร้อนในประเทศไทย: นวัตกรรมชุมชนท่ามกลางสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง https://so18.tci-thaijo.org/index.php/edusskru/article/view/1130 <p>ประเทศไทยในปัจจุบันเผชิญกับฤดูร้อนที่ยาวนานและทวีความรุนแรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่งผลกระทบต่อสุขภาวะ วิถีชีวิต และความต้องการพื้นที่พักผ่อนของประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทที่โครงสร้างพื้นฐานด้านนันทนาการยังเข้าไม่ถึง ท่ามกลางข้อจำกัดนี้ ชุมชนจึงได้ริเริ่มพัฒนาพื้นที่พักผ่อนในลักษณะ “แหล่งนันทนาการเฉพาะฤดูร้อน” โดยอาศัยทุนทางธรรมชาติ ทุนทางสังคม และภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ทางสังคม บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ทบทวนและสังเคราะห์กรอบแนวคิดด้านนันทนาการชุมชน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และนวัตกรรมทางสังคม 2) วิเคราะห์ปรากฏการณ์แหล่งนันทนาการเฉพาะฤดูร้อนในประเทศไทยในฐานะนวัตกรรมชุมชนเพื่อการปรับตัว 3) ศึกษารูปแบบกิจกรรม บทบาทต่อสุขภาวะ และเศรษฐกิจชุมชน และ 4) เสนอแนวทางการพัฒนาและจัดการอย่างยั่งยืน โดยใช้วิธีการวิเคราะห์เชิงเอกสารจากงานวิชาการที่เกี่ยวข้องควบคู่กับการลงสังเกตการณ์พื้นที่ภาคสนามทั้ง 4 กรณีศึกษา</p> <p>ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าแหล่งนันทนาการเฉพาะฤดูร้อนเป็นนวัตกรรมชุมชนเชิงพลวัตที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสุขภาวะองค์รวม สร้างพื้นที่สาธารณะต้นทุนต่ำที่เข้าถึงได้จริง กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และธำรงไว้ซึ่งอัตลักษณ์วัฒนธรรมของชุมชนอย่างมีชีวิตชีวา ขณะเดียวกันยังสะท้อนความสามารถของชุมชนในการปรับตัวต่อสภาพอากาศและวิถีชีวิตร่วมสมัยอย่างสร้างสรรค์ อย่างไรก็ตามพบว่า ยังเผชิญข้อจำกัดด้านความปลอดภัย การจัดการทรัพยากร และกรอบนโยบายในระยะยาว อีกทั้งบทความได้เสนอแนวทางการพัฒนาที่เน้นความครอบคลุม ปลอดภัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์การปรับตัวต่อสภาพภูมิอากาศ ทั้งนี้เพื่อให้พื้นที่เหล่านี้กลายเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในระดับท้องถิ่นอย่างแท้จริง</p> เตชภณ ทองเติม ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะครุศาสตร์และการพัฒนามนุษย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-08-26 2025-08-26 5 2 1 17 การแนะแนวบนฐานความต้องการจำเป็นของผู้เรียน: การแปลผลวิจัยสู่การปฏิบัติที่เข้าใจผู้เรียน https://so18.tci-thaijo.org/index.php/edusskru/article/view/1382 <p>ความต้องการจำเป็นของผู้เรียนในระบบการศึกษาไทยยังไม่ได้รับการตอบสนองอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะด้านการจัดการอารมณ์ การได้รับความเข้าใจจากครูและการเคารพในศักดิ์ศรี บทความนี้มุ่งวิเคราะห์ "ความต้องการจำเป็น" ของผู้เรียนที่สะท้อนผ่านผลวิจัยของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ปี 2568 โดยตีความว่าเป็น "เสียงจากภายใน" ที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความเงียบและความท้าทายในการแสดงออก การศึกษาใช้วิธีวิเคราะห์เอกสารเชิงบูรณาการร่วมกับทฤษฎีจิตวิทยาและการแนะแนว ได้แก่ ทฤษฎีการกำหนดตนเอง การพัฒนาเยาวชนเชิงบวก การดูแลโดยเข้าใจภาวะบาดแผล และทฤษฎีความบังเอิญที่วางแผนไว้ ผลการวิเคราะห์เสนอกรอบแนวคิด "Voice-to-Action Framework" ซึ่งช่วยถอดรหัสความต้องการเชิงลึกของผู้เรียนเป็น 3 ระดับ คือ ผิวเผิน การตีความ และเสียงจากภายใน พร้อมแนวทางการแนะแนวเชิงตอบสนองในระดับกิจกรรมกลุ่ม การให้คำปรึกษารายบุคคล และระดับเชิงระบบ เพื่อส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนและมีความหมาย</p> เจษฎา บุญมาโฮม ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะครุศาสตร์และการพัฒนามนุษย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-08-26 2025-08-26 5 2 18 36