การเสริมสร้างองค์ความรู้และการบริหารเครือข่ายสังคมในการพัฒนาโครงการ วัด ประชา รัฐ สร้างสุขของคณะสงฆ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ผู้แต่ง

  • พระปลัดสมนึก ธีรปญฺโญ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
  • ประเสริฐ ธิลาว มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

คำสำคัญ:

การพัฒนา, เครือข่ายทางสังคม, วัด ประชา รัฐ สร้างสุข

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้เพื่อ 1. ศึกษาบริบทการบริหารโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุขของคณะสงฆ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 2. ศึกษาองค์ความรู้และเครือข่ายสังคมในการพัฒนาโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุขของคณะสงฆ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ 3. นำเสนอแนวทางในการเสริมสร้างองค์ความรู้และการบริหารเครือข่ายสังคมในการพัฒนาโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุขของคณะสงฆ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา การวิจัยเป็นแบบคุณภาพเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ 25 รูปหรือคน แบ่งกลุ่ม ประกอบด้วยกลุ่มพระสงฆ์ กลุ่มผู้แทนหน่วยงานราชการ กลุ่มภาคีเครือข่ายและตัวแทนประชาชน กลุ่มผู้นำชุมชน และกลุ่มนักวิชาทางพระพุทธศาสนา และสนทนากลุ่มเฉพาะ 10 รูปหรือคน โดยใช้แบบสัมภาษณ์เชิงลึกแบบมีโครงสร้าง และแบบสนทนากลุ่มเฉพาะ ประชุมกลุ่มเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและข้อมูลตรงตามที่กำหนดไว้ พร้อมทั้งทำการวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการพรรณนา

ผลการวิจัยพบว่า 1. บริบทการบริหารโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุขของคณะสงฆ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีบริหารจัดการวัดเป็นศูนย์กลางตามแนวทางกิจกรรม 5 ส อย่างเข็มแข็ง วัดที่ไม่สำเร็จไปตามวัตถุประสงค์เนื่องจากขาดบุคลากรที่มีความชำนาญติดข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์โบราณสถาน โบราณวัตถุ และศิลปวัตถุ 2. องค์ความรู้และเครือข่ายสังคมในการพัฒนาโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุขของคณะสงฆ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดำเนินการบรรลุจุดหมาย จัดกิจกรรมทางตรงและทางอ้อมมีส่วนร่วมการตัดสินใจร่วมเสียสละในการทำงานแบ่งปันผลประโยชน์ติดตามการประเมินผล ช่วยเหลือแลกเปลี่ยนข้อมูลใช้ทรัพยากรร่วมกัน และ 3. แนวทางในการเสริมสร้างองค์ความรู้และการบริหารเครือข่ายสังคมในการพัฒนาโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุขของคณะสงฆ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สร้างสภาพแวดล้อมให้น่ารื่นรมย์จัดระเบียบสิ่งจำเป็นให้เป็นหมวดหมู่ ส่งเสริมสิ่งแวดล้อมภายในวัดมีส่วนร่วมการฟื้นฟู รักษาศิลปวัฒนธรรม ร่วมจัดกิจกรรมวิถีชีวิตวิถีวัฒนธรรมที่เป็นอัตลักษณ์ จัดการพื้นที่ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย

เอกสารอ้างอิง

กองพุทธศาสนสถาน กรมการศาสนา. (2545). คู่มือการพัฒนาวัด อุทยานการศึกษาในวัดลานวัด ลานใจ ลานกีฬา. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์การศาสนา.

ทวีชัย พลอามาตย์. (2564). การพัฒนาสัปปายะสถานที่เอื้อต่อการปฏิบัติธรรม ของสถาบันสติภาวนาเพื่อสันติภาพ อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์, 9(3), 1028-1039.

นิรมล ศรีธงชัย และคณะ. (2552). การเสริมสร้างสุขภาวะและเครือข่ายทางสังคมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในชุมชนอีสาน (รายงานการวิจัย). ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

พระครูวัชรสุวรรณาทร ธมฺมโชโต (ลูกชุบ เกตุเขียว). (2558). การประยุกต์ใช้อิทธิบาทธรรมเพื่อส่งเสริมกลยุทธ์การอนุรักษ์โบราณสถานของพระสังฆาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 15 (วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการเชิงพุทธ). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระครูสังฆรักษ์อนันต์ สุทฺธิมโน. (2564). รูปแบบการบริหารจัดการงานสาธารณูปการตามโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุขของคณะสงฆ์จังหวัดปทุมธานี. วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์, 10(1), 171-182.

พระครูอดุลสามัคคยาธร (แสงจันทร์ เจริญคง). (2563). บทบาทของเจ้าอาวาสในการบริหารจัดการวัดในสังคมไทยปัจจุบัน. วารสารมหาจุฬานาครทอรรจน์, 7(5), 102-116.

พระราชวรมุนี (ประยุทธ์ ปยุตฺโต). (2527). สถาบันสงฆ์กับสังคมไทย. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มูลนิธิโกมลคีมทอง.

เพ็ญจันทร์ บัวซาว. (2558). การปฏิบัติกิจกรรม 5 ส และการเสริมสร้างความปลอดภัยในการทำงานของพนักงานบริษัท คอมพาร์ท พรีซิชั่น (ประเทศไทย) จำกัด. วารสารชุมชนวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา, 9(1), 75-81.

ยุรนันท์ ตามกาล. (2557). บ้าน วัด โรงเรียน กับการใช้วิถีเศรษฐกิจพอเพียงในการส่งเสริมความ เข้มแข็งของครอบครัว. วารสาร HR intelligence, 9(1), 12-31.

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ. (2568). คู่มือการประเมินสถานะของหน่วยงานภาครัฐในการเป็นระบบราชการ 4.0 ตามกรอบการประเมินผลการปฏิบัติราชการ ประจำปี พ.ศ. 2568. กองนวัตกรรมบริการภาครัฐ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

01-12-2025