แนวทางการดูแลและฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้ถูกกระทำความรุนแรงที่เข้ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพในบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนราธิวาส
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดความรุนแรงต่อผู้ถูกกระทำความรุนแรงในบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนราธิวาส 2) เพื่อศึกษาแนวทางการดูแลและฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้ถูกกระทำความรุนแรงที่เข้ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพในบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนราธิวาส เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพโดยใช้แบบสัมภาษณ์เป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูล ผู้ให้ข้อมูล คือ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนราธิวาส ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กเละครอบครัวจังหวัดนราธิวาส และผู้ถูกกระทำความรุนแรง จำนวน 19 คน
ผลการศึกษา เหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดความรุนแรงต่อผู้ถูกกระทำความรุนแรงของบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนราธิวาส พบว่า สามารถจำแนกออกเป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้ 1) ปัจจัยทางเศรษฐกิจ ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ปัญหาการเงินในครอบครัว รวมถึงการว่างงาน เป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเครียด ความวิตกกังวล และความไม่มั่นคงในชีวิต ส่งผลให้สมาชิกในครอบครัวบางรายแสดงออกโดยใช้ความรุนแรง 2) ปัจจัยจากสิ่งแวดล้อมทางสังคม การมีแหล่งอบายมุข การเสพและจำหน่ายยาเสพติด แหล่งบริการทางเพศ สื่อลามกอนาจาร และสื่อความรุนแรงในรูปแบบต่าง ๆ เป็นปัจจัยกระตุ้นหรือส่งเสริมพฤติกรรมรุนแรงในสังคมและครอบครัว 3) การกระทำทารุณทางเพศ ความรุนแรงที่เกิดจากการล่วงละเมิดทางเพศ ทั้งจากคนในครอบครัวและบุคคลภายนอก ถือเป็นหนึ่งในรูปแบบความรุนแรงที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสุขภาวะจิตใจและพัฒนาการของเด็กและเยาวชน นอกจากนี้แนวทางการดูแลและฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้ถูกกระทำความรุนแรงที่เข้ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพในบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนราธิวาส พบว่ามีแนวทางการดำเนินการใน 3 ด้านหลัก ดังนี้ 1) การให้คำปรึกษาและการตรวจสอบสุขภาพกายและใจ 1.1) เจ้าหน้าที่จัดให้มีการตรวจร่างกาย ตรวจสภาพจิตใจ หรือการตรวจอายุครรภ์ในกรณีจำเป็น 1.2) ผู้ถูกกระทำจะได้รับคำปรึกษาอย่างเหมาะสม โดยมีการแจ้งให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง และผู้เกี่ยวข้องทราบ 2) การช่วยเหลือด้านการศึกษาและฝึกอาชีพ 2.1) เปิดโอกาสให้เด็กผู้ถูกกระทำความรุนแรงสามารถกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา 2.2) จัดการศึกษาทางเลือกในกรณีที่ไม่สามารถเรียนเต็มเวลาได้ 2.3) จัดให้มีการฝึกอาชีพตามความสนใจและความถนัด สำหรับผู้ที่ประสงค์จะมีทักษะอาชีพ 3) การคุ้มครองตามกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม 3.1) ดำเนินคดีกับผู้ล่วงละเมิดทางเพศเด็กและเยาวชนตามกฎหมาย 3.2) สนับสนุนให้ผู้ถูกกระทำสามารถร้องทุกข์และเรียกร้องสิทธิได้อย่างเหมาะสมภายใต้กระบวนการยุติธรรม
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กรมกิจการเด็กและเยาวชน. (ม.ป.ป.). การจัดบริการของบ้านพักเด็กและครอบครัว. ผู้แต่ง.
กฤตยา อาชวนิจกุล. (2558). ข่มขืน มายาคติและความรุนแรงซ้ำซ้อน. สมาคมเพศวิถีศึกษา.
กานดา จันทร์เพ็ญ. (2563). ความต้องการจำเป็นในการพัฒนาทักษะการบำบัดฟื้นฟูเยียวยาของเจ้าหน้าทีj
บ้านพักเด็กและครอบครัว. วารสารสังคมสงเคราะห์ศาสตร์, 28(2), 45–59.
เขมิกา ทองเต็ม. (2567). การพัฒนากระบวนการคุ้มครองเด็กในสถานพัฒนาและฟื้นฟูเด็ก. วารสารวิจัยสังคม
และพัฒนา, 41(1), 112–130.
บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนราธิวาส. (2564). ประวัติความเป็นมา [แผ่นพับ]. บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนราธิวาส.
สุขุมา อรุณจิต. (2562). ปัญหาความรุนแรงทางเพศ: บทสะท้อนความไม่เสมอภาคระหว่างเพศ. รายงานสืบเนื่องจากการสัมมนาวิชาการเนื่องในโอกาสการสถาปนาคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปีที่ 65. คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
สุฑาทิพย์ คำเที่ยง. (2562). ความรุนแรงในเด็กและเยาวชน: ตั้งใจ หรือแค่พลั้งเผลอ. ศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย. https://www.example.com/document
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา. (2546). พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546. ราชกิจจานุเบกษา. https://www.krisdika.go.th
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา. (2550). พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว
พ.ศ. 2550. ราชกิจจานุเบกษา. https://www.krisdika.go.th
สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนราธิวาส. (2564). รายงานสถานการณ์ทางสังคมจังหวัดนราธิวาส ประจำปี 2564 . https://www.example.com/narathiwat-social-report-2564
องค์การอนามัยโลก. (2564). ความรุนแรงต่อเด็ก: รายงานระดับโลกเกี่ยวกับแนวโน้มและผลกระทบ. https: //www.who.int/violence
อรอุมา อ่อนจันทร์. (2561). การบูรณาการรูปแบบการดูแลผู้หญิงและเด็กที่ถูกกระทำความรุนแรง: บทเรียนจากศูนย์พึ่งได้ โรงพยาบาลขอนแก่น. วารสารพยาบาลสาธารณสุข, 32(3), 15–28.
Belsky, J. (1980). Child maltreatment: An ecological integration. American Psychologist, 35(4), 320–335. https://doi.org/10.1037/0003-066X.35.4.320
Centers for Disease Control and Prevention. (2022). Preventing sexualviolence. https://www.cdc.gov/violenceprevention/sexualviolenc e/fastfact.html
Cohen, S., & Wills, T. A. (1985). Stress, social support, and the buffering hypothesis. Psychological Bulletin, 98(2), 310–357. https://doi.org/10.1037/0033-2909.98.2.310
Cohen, J. A., Mannarino, A. P., & Deblinger, E. (2017). Trauma-focused CBT for children and adolescents: Treatment applications. Guilford Press.
Crane, C. A., Schlauch, R. C., Hawes, S. W., Easton, C. J., & Lloyd, T. D. (2021). Substance use
disorders and intimate partner violence perpetration among male and female offenders: A longitudinal study. Journal of Interpersonal Violence, 36 (5-6), NP2860–
NP2885.[https://doi.org/10.1177/0886260518775753](https://doi.org/10.1177/0886260518775753)
Finkelhor, D., Shattuck, A., Turner, H. A., & Hamby, S. L. (2014). The lifetime prevalence of child sexual abuse and sexual assault assessed in late adolescence. Journal of Adolescent Health, 55(3), 329–333. https://doi.org/10.1016/j.jadohealth.2013.12.026
Masten, A. S. (2014). Global perspectives on resilience in children and youth. Child Development, 85(1), 6–20. https://doi.org/10.1111/cdev.12205
Norman, R. E., Byambaa, M., De, R., Butchart, A., Scott, J., & Vos, T. (2012). The long-term health consequences of child physical abuse, emotional abuse, and neglect: A systematic review and meta-analysis. PLoS Medicine, 9(11), e1001349. https://doi.org/10.1371/ journal.pmed.1001349
Spratt, E. G., Friedenberg, S. L., Swenson, C. C., LaRosa, A., De Bellis, M. D., Macias, M. M., & Brady, K. T. (2012). The effects of early neglect on cognitive, language, and behavioral functioning in childhood. Psychology, 3(2), 175–182. https://doi.org/10.4236/psych.20 12.32026
Stathopoulos, M., & Jenkinson, R. (2019). Methamphetamine use and family violence: A systematic review. Australian & New Zealand Journal of Criminology, 52(3), 327–342. https://doI.org/10.1177/0004865818822044
Trickett, P. K., Noll, J. G., & Putnam, F. W. (2011). The impact of sexual abuse on female development: Lessons from a multigenerational, longitudinal research study. Development and Psychopathology, 23(2), 453–476. https://doi.org/10.1017/S095457 9411000174
UNICEF. (2014). Hidden in plain sight: A statistical analysis of violence against children. United Nations Children’s Fund. https://www.unicef.org/reports/hidden-plain-sight
UNICEF. (2017). Guidelines on mental health and psychosocial support in emergency settings. Author.
UNICEF. (2021). The state of the world’s children 2021: On my mind – Promoting, protecting and caring for children’s mental
health. Author.
World Health Organization (WHO). (2021). Violence against children: Key facts. https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/violence-against-children
World Health Organization (WHO). (2021). Mental health and substance use. https://www. who.int/teams/mental-health-and-substance-use
World Health Organization (WHO). (2022). World mental health report: Transforming mental health for all. Author.
Zimmerman, M. A. (2013). Resiliency theory: A strengths-based approach to research and practice for adolescent health. Health Education & Behavior, 40(4), 381–383. https:// doi.org/10.1177/1090198113493782