กระบวนการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ในชุมชน กรณีศึกษา กลุ่มหัตถกรรมจักรสานตะกร้าหวาย บ้านดอนฆ้อ
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาพัฒนาการเกิดกลุ่มหัตถกรรมจักรสานตะกร้าหวาย 2) ศึกษาสภาพปัญหาของกลุ่มหัตถกรรมจักรสานตะกร้าหวาย 3) ศึกษากระบวนการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ ในชุมชนของกลุ่มหัตถกรรมจักรสานตะกร้าหวาย บ้านดอนฆ้อ โดยใช้รูปแบบการวิจัยเชิงคุณภาพ กลุ่มผุ้ให้ข้อมูลหลัก 15 คน ผู้วิจัยดำเนินการศึกษาจากแหล่งข้อมูลกับบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้แก่ การสัมภาษณ์เชิงลึก การสังเกตแบบมีส่วนร่วม และการเก็บข้อมูลภาพและเสียงจากกิจกรรมของกลุ่ม เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มหัตถกรรมจักสานตะกร้าหวายบ้านดอนฆ้อเกิดขึ้นจากการรวมตัวของสมาชิกในชุมชนที่มีภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านการจักสาน และได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ส่งผลให้กลุ่มมีความยั่งยืนและดำเนินกิจกรรมได้อย่างต่อเนื่อง การก่อตัวของกลุ่มสอดคล้องกับแนวคิด Community of Practice ที่เน้นการเรียนรู้ ผ่านการปฏิบัติร่วมกัน นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มเผชิญปัญหาหลัก ได้แก่ ขาดแคลนวัตถุดิบธรรมชาติ การขาดแรงงานรุ่นใหม่ และการบริหารจัดการภายในกลุ่มที่ยังไม่เป็นระบบ ส่งผลให้การขยายตลาดและ ความยั่งยืน ของกลุ่มถูกจำกัดกระบวนการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ในชุมชนเกิดจากการทำงานร่วมกันจริง การสื่อสารไม่เป็นทางการ และการพึ่งพาความร่วมมือจากภายในและภายนอกชุมชน ซึ่งทุนทางสังคมมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความเข้มแข็งและการขยายผลการเรียนรู้ในกลุ่มเพื่อเพิ่มความตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคจากผลิตภัณฑ์ที่ที่ทางกลุ่มได้ร่วมกันกับหน่วยงานต่าง ๆ จัดทำขึ้น ตามแนวทางและตามยุคสมัยเพื่อเพิ่มความหน้าดึงดูดใจในการใช้งานแก้ผู้ใช้งาน
References
จิราภรณ์ โชคชัย. (2563). การศึกษากลุ่มเครื่องเงินในอำเภอแม่แจ่ม. วารสารวิชาการชุมชน, 15(2), 45-60.
ณัฐกานต์ วรรณสุข. (2563). ผลกระทบของการลดลงของทรัพยากรธรรมชาติต่อกลุ่มหัตถกรรมไม้ไผ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. ใน รายงานการวิจัย. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
ตัวแทนท่านที่ 1. (19 มิถุนายน 2567). การจัดอบรมเสริมทักษะจากวิทยากรภายนอก. (พระเกียรติศักดิ์ ขำเกลี้ยง, ผู้สัมภาษณ์)
ตัวแทนท่านที่ 2. (20 มิถุนายน 2567). ช่องทางออนไลน์และการทำแบรนด์. (พระเกียรติศักดิ์ ขำเกลี้ยง, ผู้สัมภาษณ์)
ธัชชนันท์ อิศรเดช และคณะ. (2565). การบริหารจัดการกลุ่มอาชีพในพื้นที่ชนบท: ปัญหาและแนวทาง. วารสารการพัฒนาชุมชน, 10(1), 72-85.
มานิตา กาญจนโกวิท. (2561). การใช้สื่อดิจิทัลในเครือข่ายกลุ่มอาชีพจังหวัดสุรินทร์. วารสารเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร, 5(3), 120-135.
วิภาดา ศรีสวัสดิ์. (2562). ความเปราะบางของกลุ่มเกษตรอินทรีย์ในจังหวัดเชียงราย: การจัดการธุรกิจและการพึ่งพาองค์กรรัฐ. วารสารเกษตรและชุมชน, 6(1), 14-28.
ศิริรัตน์ ทองแจ่ม. (2562). การเกิดกลุ่มหัตถกรรมผ้าทอในจังหวัดแพร่. รายงานวิจัยชุมชน, 7(4), 33-48.
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย. (2560). การประยุกต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย.
สุมาลี ทองงาม. (2564). การรวมกลุ่มของชุมชนบนฐานภูมิปัญญาเดิมและการสนับสนุนจากองค์กรภายนอก. วารสารวิชาการสังคมศาสตร์, 12(1), 20-35.
อานนท์ พรมเทศ. (2562). การเรียนรู้เชิงประสบการณ์ร่วมในชุมชน. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัย.
อุไร นิ่มนวล. (2564). เครือข่ายทอผ้าพื้นเมืองในภาคอีสาน: การแลกเปลี่ยนความรู้และความเข้มแข็งทางวิชาชีพ. วารสารวัฒนธรรมพื้นบ้าน, 8(2), 50-65.
Putnam, R. D. (2000). Bowling alone: The collapse and revival of American community. New York: NY: Simon & Schuster.
Wenger, E. (1998). Communities of practice: Learning, meaning, and identity. Cambridge: Cambridge University Press.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.