หลักพุทธศาสนาและจิตวิทยาการควบคุมตนเอง

Main Article Content

ธัญญรัศม์ ธนวัติอภิชาติโชติ

บทคัดย่อ

หลักพุทธศาสนาและจิตวิทยาการควบคุมตนเองคือการมีสติสัมปชัญญะ ต้องใช้ทุกกรณี ทุกที่ ทุกเวลา ถ้ามีสติสัมปชัญญะการรักษาศีลย่อมง่าย เพราะไม่พลั้งเผลอและรู้ตัวในการกระทำของตนเอง ย่อมทำให้ไม่ล่วงละเมิดศีล หิริโอตตัปปะ ทำให้รักษาศีลง่าย เพราะความละอายบาปความกลัวบาปไม่เปิดโอกาสให้บุคคลทำผิดศีล ขันติโสรัจจะ เมื่อต้องการประกอบกิจการงานให้เรียบร้อยมั่นคงไม่หลงไหลไปตามกระแสของสังคม อดทนต่อสภาวะที่ถูกกระทำให้หวั่นไหวได้ในทุกเวลา นอกจากนี้ยังต้องขันติโสรัจจะ เมื่อต้องการประกอบกิจการงานให้เรียบร้อยมั่นคงไม่หลงไหลไปตามกระแสของสังคม อดทนต่อสภาวะที่ถูกกระทำให้หวั่นไหวได้ในทุกเวลา สามารถนำพาตนเองให้มาอยู่ในภาวะที่ปกติตามเดิมได้ของศีลซึ่งเป็นภาวะปกติของบุคคล วงล้อแห่งธรรมทั้งสามจะขับเคลื่อนให้บุคคลสามารถควบคุมตนเองให้อยู่ได้อย่างสันติสุข การควบคุมผลกรรมด้วยตนเองโดยผลกรรมนี้อาจเป็นได้ทั้งการเสริมแรงหรือการลงโทษ ซึ่งในการควบคุมพฤติกรรมควรใช้การเสริมแรงมากกว่าการลงโทษ

Article Details

How to Cite
ธนวัติอภิชาติโชติ ธ. (2023). หลักพุทธศาสนาและจิตวิทยาการควบคุมตนเอง. วารสารวิชาการแห่งอนาคต, 2(2), 9–23. สืบค้น จาก https://so18.tci-thaijo.org/index.php/FACJ/article/view/5
บท
บทความวิชาการ

References

ดวงเดือน พันธุมนาวิน. (2547). หัวหน้าจะพัฒนาจิตลักษณะ ด้านมุ่งอนาคตและควบคุมตน แก่ลูกน้องได้อย่างไร. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติร่วมกับคณะกรรมการแห่งชาติ เพื่อการวิจัยและพัฒนาระบบพฤติกรรมไทย.

ถิรพงศ์ ฤกษ์ขำ และคณะ. (2558). การพัฒนารูปแบบการพัฒนาวินัยนักเรียนของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาในกรุงเทพมหานคร. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 9(ฉบับพิเศษ), 169-185.

พรสิทธิ์ อุดมศิลป์จินดา. (2542). โยนิโสมนสิการธรรม. พิมพ์ครั้งที่ 15. กรุงเทพฯ: เฟื่องฟ้า.

พระครูโกศลสุตากร. (2557). การวิเคราะห์กุศโลบายการข่มใจ (ทมะ) สำหรับพัฒนาพลังชีวิตตามแนวพระพุทธศาสนา (ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต). มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระชัชวาลย์ ศรีสุข. (2541). ศาสนากับการพัฒนาบุคลิกภาพ: ศึกษาเปรียบเทียบหลักคำสอนเกี่ยวกับการพัฒนาบุคลิกภาพในพุทธศาสนาและศาสนาคริสต์ (วิทยานิพนธ์อักษรศาสตรมหาบัณฑิต).มหาวิทยาลัยมหิดล.

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต).(2551). พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์. พิมพ์ครั้งที่ 12.กรุงเทพฯ: มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระโพธิญาณเถระ (ชา สุภทฺโท).(2550). 48 พระธรรมเทศนา. พิมพ์ครั้งที่ 5. อุบลราชธานี: ศูนย์เผยแผ่มรดกธรรมวัดหนองป่าพง.

พระมหาประพันธ์ รักเรียน. (2541). จริตกับการบรรลุธรรมในคัมภีร์พุทธศาสนาเถรวาท (วิทยานิพนธ์อักษร

ศาสตรมหาบัณฑิต). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ไพศาล ไกรสิทธิ์. (2542). การพัฒนาตน.ราชบุรี: สถาบันราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง.

Cormier, W. H., Cormier, L. S. (1991). Interviewing strategies for helpers: fundamental skills and cognitive behavioral interventions (3rd ed.). Pacific Grove, CA: Brooks/Cole.

Digman, J.M. (1990). Personality structure: The emergence of the five factors model. Annual. Review of Psychology, 41, 417- 440.

Kazdin, A.E . (1980). Behavior Modification in Appied Settings. Illinois:The Dorsey Press.

Lagrange, T. C., & Silverman, R. A. (1999). Low self-control and opportunity: Testing the general theory of crime as an explanation for gender differences in delinquency. Criminology, 37(1), 41-72.

Lawrence, G. B. (1996). The impact of coping and perceived control on adjustment in children who have lost a parent (Unpublished doctoral dissertation). Columbia University.

Leventhal, H.,& Johnson, J. E. (1983).Laboratory and field experimentation: Development of a theory of self-regulation. St. Louis: The C.V. Mosby Company.

Reckless, W.C. (1950). The Crime Problem. Los Angeles, CA:Roxbury.

Thoresen, C. E.. & Mahoney. M. J.(1974). Behavioral self-control. New York: Holt, Rinehart & Winston.