การพัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้สื่อประสมในการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาผลการพัฒนาคะแนนทักษะการฟังภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้สื่อประสมในการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ 2) เปรียบเทียบทักษะการฟังภาษาอังกฤษก่อนและหลังโดยใช้สื่อประสมในการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ และ 3) ศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการใช้สื่อประสมในการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 22 คน ที่ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่มด้วยวิธีจับสลาก เครื่องมือ ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้สื่อประสมในการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ 2) แบบวัดทักษะการฟังภาษาอังกฤษ และ 3) แบบสำรวจความพึงพอใจที่มีต่อการใช้สื่อประสมในการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ ผลการวิจัย พบว่า 1) ผลการพัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้สื่อประสมในการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ มีการพัฒนาสูงขึ้น โดยมีเกณฑ์ค่าเฉลี่ยคะแนนทักษะการฟังภาษาอังกฤษ เท่ากับ 7.36 2) ผลการเปรียบเทียบทักษะการฟังภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ค่าเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 3) ผลความพึงพอใจที่มีต่อการใช้สื่อประสมในการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ อยู่ในระดับมาก
Downloads
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ผู้ส่งบทความ (และคณะผู้วิจัยทุกคน) ตระหนักและปฎิบัติตามจริยธรรมการวิจัยอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้บทความ เนื้อหา ข้อมูล ข้อความ ภาพ ตาราง แผนภาพ แผนผัง หรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในบทความ เป็นความคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้ส่งบทความ กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นตามเสมอไป และไม่มีส่วนรับผิดชอบใดๆ โดยถือเป็นความรับผิดของของเจ้าของบทความเพียงผู้เดียว
References
Bangwat, P. (2020). The development of communicative language teaching with multimedia to enhance ability in listening and speaking English of Matthayomsuksa 2 students. [Master thesis, Mahasarakham University]. http://202.28.34.124/dspace/bitstream/123456789/1054/1/60010585008.pdf (in Thai)
Donkaewbua, S. (2015). Linguistics for English teachers. Chulalongkorn University Press. (in Thai)
Johnson, D. W., & Johnson, R. T. (1994). Learning Together and Alone. Cooperative, Competitive, and Individualistic Learning. Allyn and Bacon.
Kaiyawan, Y. (2013). Multivariate statistical analysis for research. Chulalongkorn University Press. (in Thai)
Khammanee, T. (2017). The science of teaching: Insights for effective learning processes. Chulalongkorn University Press. (in Thai)
Koonkaew, A. (2012). Testing, measurement, and new approaches in educational assessment. Chulalongkorn University Press. (in Thai)
Nentoranee, J. (2022). Starting a new term, keep an open mind of teachers. https://www.educathai.com/knowledge/articles/602 (in Thai)
Office of the Permanent Secretary, Ministry of Education. (2019). Results of ordinary national educational test (O-NET) for grade 6 students in 2016-2018 of the school in Ratchaburi. https://sp.moe.go.th/sp_2563/info/?module=page_onet_province&id_province=70 (in Thai)
Pipitkul, Y., & Tunbunjong, A. (2017). Mathematics teaching. Bopit Printing. (in Thai)
Seenruttana, P. (2012). Factors affecting the success of the SAP system for module FI in the accountant task of companies listed on the stock exchange. [Master thesis, Dhurakij Pundit University]. (in Thai)
Srisaard, B. (2011). Introduction to research (9th ed.). Suveeriyasarn Printing. (in Thai)
Supromma, W. (2016). Activity packages to practice English listening and speaking skills “Daily Life” by using student teams achievement division (STAD) for grade 7 students in Phrapariyati Dhamma secondary schools Hariphunchai Temple. [Master thesis, Uttaradit Rajabhat University]. (in Thai)