แนวโน้มโปรแกรมการพัฒนาวิชาชีพสำหรับครูด้านการคิดเชิงคำนวณ: การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้เป็นการทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบจากงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมการพัฒนา วิชาชีพสำหรับครูด้านการคิดเชิงคำนวณ จำนวน 127 ชิ้น คัดเลือกงานวิจัยโดยใช้เกฑณ์กรอบแนวคิดของ Petticrew and Roberts (2008) ร่วมกับ Espinal et al. (2024) อย่างเป็นระบบจนได้ จำนวนผลงานวิจัยทั้งสิ้น 42 ชิ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวโน้มผลลัพธ์การเรียนรู้และเทคโนโลยีที่ใช้ในโปรแกรมพัฒนาวิชาชีพสำหรับครูด้านวิทยาการคำนวณโดยประยุกต์ใช้กรอบแนวคิดที่สำคัญจำนวน 5 กรอบแนวคิด ประกอบด้วย กรอบ TPACK (Mishra and Koehler, 2006) กรอบ Bloom’s Revised Taxonomy (Armstrong, 2010) กรอบ Computational Thinking in Mathematics and Science (Weintrop, 2016) กรอบ ICAP (Chi, 2009) และกรอบรูปแบบการสอนเขียนโปรแกรม (Espinal et al., 2024) ผลการวิเคราะห์ผลลัพธ์การเรียนรู้ตามกรอบแนวคิด แบ่งเป็น 4 หัวข้อ พบว่า 1. กรอบแนวคิด TPACK Model: ด้านยุทธวิธีการสอนด้านเนื้อหา (65 %) ด้านเทคโนโลยีที่สามารถใช้พัฒนาความรู้ด้าน CT (19 %) และด้านความรู้ ความเข้าใจด้าน CT (16 %) 2. ตามกรอบแนวคิด Bloom’s Revised Taxonomy: ด้านความเข้าใจ (43 %) ด้านการนำไปใช้ (31 %) ด้านการวิเคราะห์ (14 %) ด้านความสร้างสรรค์ (7 %) และด้านการประเมินผล (5 %) 3. กรอบแนวคิด Computational Thinking in Mathematics and Science Taxonomy: ด้านการแก้ปัญหาเชิงคำนวณ (52 %) ด้านการปฏิบัติทางด้านข้อมูล (21 % ) ด้านการคิดเชิงระบบ (17 %) และด้านการสร้างแบบจำลองและการจำลอง (10%) และ 4. รูปแบบสำหรับการสอนเขียนโปรแกรม จำแนกตามระดับการมีส่วนร่วมของผู้เรียน: กิจกรรม Unplugged Activities (48%) โดยแบ่งเป็นระดับ Constructive (36%) และระดับ Interactive (12%) กิจกรรม Block-based Programming (33%) โดยแบ่งเป็นระดับ Constructive (21%) และระดับ Interactive (12%) และกิจกรรม Text-based Programming (19%) โดยแบ่งเป็นระดับ Constructive (14%) และระดับ Interactive (5%) ตามลำดับ